4 ข้อดี ของน้ำมันมะพร้าว ช่วยบำบัดโรค – หนังสือ สัปปายะ

4 จุดเด่นของน้ำมันมะพร้าว ช่วยบำบัดโรคภัย

  • โมเลกุลสายกลาง นำไปใช้ได้ไว
  • ช่วยต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และ เชื้อรา
  • สารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • ไม่เป็น Trans Fat

ประวัติน้ำมันมะพร้าว

มนุษย์ใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นอาหาร ยา และ เครื่องสำอาง มายาวนาน

อินเดีย ใช้ในระบบการแพทย์อายุรเวท (Ayurveda) มานานกว่า 4,000 ปี
เพื่อรักษาบาดแผล รักษาอาการอักเสบ บำรุงผม และผิวหนัง

ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและมาเลเซีย เป็นประเทศผู้ส่งออกมะพร้าวอันดับต้น ๆ ใช้ผัดทอด ทำขนมใช้ในอาหารท้องถิ่นและการบำรุงผิวพรรณ มีการนวดน้ำมันเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดการอักเสบ

หมู่เกาะแปซิฟิก ใช้ทาผิวป้องกันแสงแดดลมทะเล ทาเส้นผมให้เงางาม ผสมกาแฟและชา และ ใช้เป็นแหล่งพลังงาน เพราะเผาผลาญได้เร็ว


4 จุดเด่นของน้ำมันมะพร้าว

1 .โมเลกุลสายกลาง นำไปใช้ได้รวดเร็วเก็บสะสมน้อย ไขมันที่อยู่ในน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
ส่วนใหญ่เป็นโมเลกุลสายกลาง มีประโยชน์ดังนี้

  • เพิ่มพลังงานทันที เหมาะกับนักกีฬา, ผู้ที่ออกกำลังกายหนัก
  • ลดการสะสมของไขมันที่ตับ และ ตามร่างกาย (ทาน 1-3 ช้อนโต๊ะ/วัน)
  • เพิ่มธาตุไฟช่วยการเผาผลาญ
  • เมื่อย่อยเป็น Ketone ที่ตับ เป็นพลังงานให้กับสมอง ลดภาวะสมองล้า
  • อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร
  • ช่วยให้เซลล์ดูดซึมน้ำตาลในกระแสเลือดได้ดี(ลดภาวะดื้ออินซูลิน)

2 .ช่วยต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรีย รา ในน้ำมันมะพร้าวมีกรดไขมันสายกลาง
คือ กรดลอริก(Lauric), กรดคาปริก(Capric), กรดคาปริลิก(Caprylic)

กรดลอริก ย่อยเป็น โมโนลอรินเมื่อเข้าสู่ร่างกาย ช่วยทำลายเกราะไขมันของ
ไวรัส HIV, เริม, ไข้หวัดใหญ่, โคโรนาบางสายพันธุ์ โดยทำให้โครงสร้างของไวรัส
พังทลายไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้

กรดคาปริก ทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรีย และ โมโนลอรินแทรกผ่าน Biofilm
ไปทำลายเชื้อแบคทีเรียได้ เช่น
-Staphylococcus aureus (สาเหตุของการติดเชื้อผิวหนัง)
-Streptococcus mutans (สาเหตุของฟันผุ)
-Helicobacter pylori (สาเหตุของแผลในกระเพาะอาหาร)

กรดคาปริลิก มีฤทธิ์ทำลายผนังเซลล์ของเชื้อราและขัดขวางการเจริญของ
Candida albicans (เชื้อราที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องปากและช่องคลอด)
และ Aspergillus spp. (สาเหตุของการติดเชื้อทางเดินหายใจ)


3 .ต้านความเสื่อมหลอดเลือด ในน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมีวิตามินอี, โพลีฟีนอล,
ฟลาโวนอยด์สูง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ซ่อมแซมหลอดเลือด

  • ลดการเกิดแผลในผนังหลอดเลือด ต้นเหตุของลิ่มเลือดไขมันอุดตัน
  • ลดความเสื่อม การสะสมของเสียในสมอง (ป้องกันอัลไซเมอร์)
  • ลดการเสื่อมของจอประสาทตา และ ต้อกระจก
  • ลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และ มะเร็งลำไส้
  • ลดการอักเสบตามข้อต่อ

4 เป็นน้ำมันอิ่มตัว ไม่กลายเป็นน้ำมันทรานส์ น้ำมันมะพร้าว เป็นไขมันอิ่มตัวถึง 90%
ไม่ทำปฏิกิริยากับอากาศง่าย ๆ มีความเสถียรไม่ไวต่อการ Oxidation เมื่อโดนความร้อน
จึงนำมาทอดอาหารได้ดี


Trans FAT ไม่ดีอย่างไร ?

  • ลดระดับไขมันดีที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินในเลือดผลคือเกิดการอุดตันได้ง่าย
  • เพิ่มความเสี่ยงของ Stroke
  • ทำให้ร่างกายดื้ออินซูลิน น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
  • กระตุ้นการอักเสบ เช่น ข้อต่ออักเสบ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง

Trans FAT ได้รับจากอะไร ?

  • กลุ่มหนึ่ง ทานอาหารมีการเติม Hydrogen เข้าไปเพื่อเปลี่ยนให้เป็นของแข็ง
    เก็บรักษาได้นาน ไม่เหม็นหืน ทนความร้อนได้ เช่น มาการีน, คุกกี้, ครัวซองค์
    พาย, โดนัท, เค้ก, มันฝรั่งทอด, พิซซ่าแช่แข็ง, ครีมเทียม, Shortening
  • กลุ่มสอง ทานอาหารที่ทอดด้วยน้ำมันที่ไม่เสถียร(ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน)
    เมื่อโดนความร้อนสูง(สูงกว่า 180 เซลเซียสเป็นเวลานาน) ทอดหลายครั้ง
    หรือเก็บไว้นานเกินไป เช่น น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันดอกทานตะวัน

การใช้น้ำมัน น้ำมันที่นำมาทอดได้ (เป็นน้ำมันที่ค่อนข้างเสถียร)
น้ำมันที่ทอดอาหารได้ น้ำมันมะพร้าว(ผ่านกรรมวิธี),
น้ำมันอะโวคาโด(ผ่านกรรมวิธี), น้ำมันเมล็ดชา(ผ่านกรรมวิธี),
น้ำมันปาล์ม(ผ่านกรรมวิธี), น้ำมันถั่วลิสง(ผ่านกรรมวิธี), น้ำมันรำข้าว(ผ่านกรรมวิธี)

ผัดเบา ๆ ทอดไม่หนัก น้ำมันมะกอก(ผ่านกรรมวิธี), น้ำมันดอกคำฝอย(ผ่านกรรมวิธี)
น้ำมันทานตะวัน(ผ่านกรรมวิธี), น้ำมันคาโนลา(ผ่านกรรมวิธี)

น้ำมันที่ทานสดดีกว่า น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น, น้ำมันงาสกัดเย็น,
น้ำมันงาขี้ม้อนสกัดเย็น, น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์, น้ำมันมะกอก Extra Virgin

การทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
ทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นวันละ 1-3 ช้อนโต๊ะ
โดยเริ่มจากการทานปริมาณน้อย ๆ ก่อน
หากมีอาการท้องเสียมาก ๆ ให้เลี่ยงการทานไป


สอบถามหรือสั่งซื้อสินค้ากับ
แพทย์แผนไทยได้ที่

Line@ : @cheewaherb
https://lin.ee/0OMLCKpv

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *